Saturday, March 27, 2010

จะหาลูกค้าก็ไม่ว่า แต่ทำไมต้องมาดูถูกฉันด้วย?

จะหาลูกค้าก็ไม่ว่า แต่ทำไมต้องมาดูถูกฉันด้วย?

กระทู้นี้ปั้นขึ้นมาด้วยอารมณ์ของจขกท.ล้วนๆค่ะ ขอสารภาพ ขี้แง
เสียใจ+เสียความรู้สึกมากจริงๆค่ะกับคนที่เรียกกันว่าเพื่อน
เป็นเรื่องของเพื่อนคนหนึ่งพยายามยัดเยียดธุรกิจให้เราสมัครสมาชิกต่อจากเค้าน่ะค่ะ หว่านล้อมต่างๆนาๆพอไม่สนใจก็มาว่ากันแรงๆ

เืรื่องมีอยู่ว่า.. กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว(จ๊าก ไม่ใช่)..
เพื่อนที่จขกท.คบมาหลายปีดีดัก เจอหน้ากันแทบทุกวัน

วันนึงเค้าก็มาถามเราค่ะว่า "ใช้ยาสีฟันอะไร"
เราก็บอกว่า "เซนxxxxxน์ มีอะไรเหรอแก"
เพื่อนเรา "อืมเหรอ ฟลูออไรด์เยอะนะ แต่แกรู้ม๊ะเยอะมากไปน่ะฟันผุนะ"
เรา "เรอะ! ไม่เป็นไร ไม่สนว่ะ มันอร่อยดี ฉันชอบ"
เพื่อนเรา "เห้ย ฉันมีทางเลือกดีๆมาเสนอให้แก" << จากประโยคนี้มันเริ่มเข้าเรื่องแล้วค่ะ
เราเองก็เริ่มแหม่งๆค่ะ ได้ยินเรื่องราวของธุรกิจนี้มาเยอะเหลือเกิน แล้วเพื่อนเราก็ทำธุรกิจนี้เหมือนกันก็เลยเข้าเค้า
เพื่อนเราเค้าก็บรรยายต่อค่ะว่าดีอย่างนั้นอย่างนี้ ของมีคุณภาพมากในราคาที่ถูกกว่า
แล้วก็เริ่มยกตัวอย่างว่าเราน่ะใช้ครีมตั้งหลายตัว หน้าก็ไม่เห็นจะดีขึ้น ดูหน้ามันสิไม่เห็นจะต้องใช้อะไรมากมายเลยดีกว่าหน้าเราตั้งเยอะ (เอิ่ม ชั้นเห็นแกขาวมาตั้งแต่3ขวบแล้วนะ แล้วเราใช้ครีมบำรุง2ตัว กันแดดอีก1 นี่มันมากมายตรงไหนเนี่ย)แล้วก็มาบังคับเราทำสปาหน้า บอกว่า300บาท ไอ้เราก็ไม่อยากทำ ก็บอกไปว่าไม่มีกะตังค์ค่ะ เพื่อนเราก็บอกกลับมาว่า"เหอะ แค่300เนี่ยนะ งั้นเอางี้แล้วกันขัดสิวเสี้ยนก่อน 150เดี๋ยวอีก2-3วันจะทำให้" เจอแบบนี้ปฏิเสธไม่ออกกันเลยทีเดียว มัวแต่อึ้งกับการรวบรัดของเธอนั่นเอง
เราก็เลยเปลี่ยนเรื่องว่า "แม่แกได้ไปต่างประเทศยังอ่ะตอนนี้" เพื่อนเราก็บอกว่าได้ไปแล้ว แต่ตัวมันยังไม่ได้ไป ถ้าอยากให้มันได้ไปต่างประเทศก็ต้องช่วยมันทำธุรกิจนี้ค่ะ
พูดกันไป บลาบลาๆๆ.. เราก็ไม่แสดงทีท่าว่าเราต้องการเข้าร่วมเป็นสมาชิกกับเค้าค่ะ
เค้าก็เอาแม่ของเรามาพูดค่ะ ว่าแม่แกก็ทำงานนี่(ก็หนักอยู่ แม่เป็นครูค่ะ) หนักร่างกายก็ถดถอยลงไปล่ะ สุขภาพก็ไม่ค่อยดีนี่ แม่แกตายไปแกต้องอยู่คนเดียวจะอยู่ได้ยังไง (นี่แช่งแม่เรา หรือแอบจิกด่าว่าเราเป็นสิ้นไร้หนทางฟระ?) มาทำธุรกิจนี้ดีกว่า ตอนนี้แหละเหมาะที่สุดแล้ว แต่เราก็ไม่อยากทำและตอนนี้เราก็จะเริ่มเรียนใหม่ ก็เลยบอกเพื่อนไปว่า ยังไม่ได้หรอกตอนนี้อยากเรียนน่ะ ยังไม่อยากไปทำอย่างอื่น ขอตั้งใจก่อนน่ะ มันบอกกลับมาด้วยประโยคที่ทำให้เราเอ๋อเลยทีเดียว "หน้าอย่างแกยังคิดจะเรียนอีกเหรอ คิดเหรอว่าเรียนไปแล้วจะจบ" แล้วก็ยังโน้มน้าวเราว่ามาทำธุรกิจกับมันได้เงินก็ดี ไม่ต้องทำงานหนักด้วย ดีกว่าตั้งเยอะ
พอมันพูดประโยคนี้เสร็จแล้ว เราก็เลยขอตัวไปทำธุระต่อเลยค่ะ
2-3วันต่อมาเจอกัน เราก็เข้าไปทักเพื่อนเราตามปกติค่ะ แต่เค้าไม่คุยกับเราซึ่งเราเข้าใจว่าเคืองที่เราไม่ยอมทำธุรกิจกับเค้าน่ะค่ะ แล้วก็ไม่ได้คุยกันอีกเลยนับจากวันนั้น


เราก็ยอมรับค่ะว่าเคยเกเร ไม่ได้ตั้งใจเรียนมาก่อนหน้านี้ แต่ตอนนี้เราก็กำลังจะเริ่มใหม่ เราก็มีชีวิตที่ดีขึ้น มีความสุขอยู่กับแม่ พยายามเป็นคนดี แต่พอมาเจอประโยคที่คุณเพื่อนเธอว่ามามันรู้สึกห่อเหี่ยวลงน่ะค่ะ เสียใจอยู่เหมือนกัน แต่ก็พยายามไม่คิดอะไรมากน่ะค่ะ

ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านและออกความคิดเห็นนะคะ
ถ้ามีการใช้ภาษาไทยผิดพลาดไปบ้างก็ขอโทษด้วยนะคะ

อ่านต่อ: http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B9046060/B9046060.html